แนวโน้มตลาดอสังหาฯ ปี 2025 กับพฤติกรรมผู้ซื้อที่เปลี่ยนไป
ในปี 2025 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทั้งจากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวหลังช่วงชะลอตัวหลายปี และจากพฤติกรรมของผู้ซื้อบ้านยุคใหม่ที่ไม่ได้มองเพียง “ทำเลดี” อย่างเดียวอีกต่อไป แต่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า เทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวก และรูปแบบชีวิตที่ยืดหยุ่นมากขึ้น การเข้าใจแนวโน้มเหล่านี้จึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับนักลงทุน ผู้พัฒนา และผู้ซื้อที่ต้องการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดในปีนี้
แนวโน้มตลาดอสังหาฯ ปี 2025 ที่ต้องจับตา
ปี 2025 ถือเป็นช่วงของ “การปรับตัวเชิงคุณภาพ” ของตลาดอสังหาฯ หลังจากที่ตลาดฟื้นตัวต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ปัจจัยหลักที่ผลักดันตลาดคือการกลับมาของกำลังซื้อคนเมือง การเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลรอบนอกที่เชื่อมต่อระบบราง และการเติบโตของตลาดเช่าระยะยาวที่ขับเคลื่อนโดยแรงงานต่างชาติและผู้พักอาศัยแบบดิจิทัลโนแมด
นักวิเคราะห์คาดว่า คอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบระดับกลางถึงบน ยังคงเป็นสินค้าหลักของตลาด โดยเฉพาะโครงการที่สามารถตอบโจทย์ “การใช้ชีวิตครบในที่เดียว” เช่น มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำงาน ฟิตเนส และมุมพักผ่อน ทั้งนี้ความต้องการบ้านในจังหวัดรอบกรุงเทพฯ เช่น ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากราคาที่จับต้องได้มากกว่าใจกลางเมือง
อีกหนึ่งแนวโน้มที่โดดเด่นคือ การเติบโตของอสังหาฯ เพื่อผู้สูงวัย และโครงการที่เน้นแนวคิด “บ้านเพื่อสุขภาพ” (Wellness Living) ทั้งในรูปแบบรีสอร์ตพักอาศัยและโครงการแนวราบที่ออกแบบให้รองรับการดูแลระยะยาว
พฤติกรรมผู้ซื้ออสังหาฯ ปี 2025 ที่เปลี่ยนไป
พฤติกรรมของผู้ซื้อในปีนี้สะท้อนชัดว่า “ราคาไม่ใช่ทุกอย่าง” อีกต่อไป ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับคุณค่าที่ได้รับในระยะยาวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพวัสดุ การออกแบบเพื่อประหยัดพลังงาน หรือการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม
ผู้ซื้อวัยทำงานช่วงอายุ 25–40 ปี กลายเป็นกลุ่มกำลังซื้อหลักของตลาด พวกเขามักมองหาโครงการที่ให้ ความยืดหยุ่นในการอยู่อาศัยและการลงทุน เช่น บ้านที่สามารถปรับพื้นที่เป็นโฮมออฟฟิศ หรือคอนโดที่ปล่อยเช่าได้ง่ายในทำเลใกล้รถไฟฟ้า การซื้อบ้านไม่ได้หมายถึงการ “อยู่ถาวร” อีกต่อไป แต่เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนทั้งในรูปแบบมูลค่าเพิ่มและรายได้ระยะยาว
ในขณะเดียวกัน พฤติกรรมการค้นหาข้อมูล ของผู้ซื้อเปลี่ยนไปเกือบทั้งหมด ผู้บริโภคกว่า 80% เริ่มต้นค้นหาโครงการผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ รีวิวจากผู้ใช้จริง หรือการดูรีลและวิดีโอรีวิวผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้นักพัฒนาโครงการจำเป็นต้องลงทุนใน ภาพลักษณ์ดิจิทัล และการตลาดเชิงเนื้อหา (Content Marketing) มากขึ้น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและการตัดสินใจที่ง่ายขึ้นสำหรับลูกค้า
การปรับตัวของผู้พัฒนาและนักลงทุนในตลาดอสังหาฯ
เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ผู้พัฒนาโครงการจึงต้องปรับกลยุทธ์ให้ทัน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโครงการที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น แบบบ้านที่สามารถต่อเติมหรือดัดแปลงได้ การใช้เทคโนโลยี AI ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ซื้อเพื่อคัดกรองกลุ่มเป้าหมาย และการสื่อสารด้วยเนื้อหาที่เน้น “คุณค่าที่จับต้องได้” มากกว่าการขายด้วยโปรโมชั่น
สำหรับนักลงทุนในปี 2025 แนวโน้มที่ควรจับตาคือ อสังหาฯ ที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายใหม่และทำเลเมืองรอง ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูงกว่าราคาตลาดเฉลี่ย นอกจากนี้ยังมีโอกาสในกลุ่ม “บ้านเช่าเพื่อการแพทย์และสุขภาพ” ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นตามกระแสสุขภาพของผู้สูงวัย
ปี 2025 คือช่วงเวลาของ “การเปลี่ยนผ่าน” ของตลาดอสังหาฯ ไทย จากตลาดที่เน้นปริมาณ สู่ตลาดที่เน้นคุณภาพและความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภค ผู้ซื้อยุคใหม่ไม่ได้มองเพียงราคาหรือทำเลอีกต่อไป แต่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี คุณภาพชีวิต และความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ ขณะที่ผู้พัฒนาและนักลงทุนต้องมุ่งสร้างมูลค่าที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงการขายสินทรัพย์ แต่คือการมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่อย่างแท้จริง